PRN บริการรับฝากขาย-ให้เช่าที่ดิน บ้าน คอนโด โดยทีมงานมืออาชีพ ให้คำปรึกษาฟรี 094-2353251

การประมูลบ้านมือสอง


การประมูลบ้านมือสอง

เป็นอีกตลาดหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากผู้ต้องการมีบ้านอย่างแพร่หลาย เพราะบ้านในตลาดประมูลบ้านมือสองมีจุดเด่นที่แตกต่างกับบ้านในโครงการจัดสรร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของราคา เนื่องจากการขายบ้านในตลาดประมูลจะเริ่มที่ราคาต่ำกว่าราคาขายบ้านในตลาดบ้านใหม่ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวสินค้า โอกาสที่ผู้ซื้อจะซื้อบ้านได้ในราคาต่ำจึงมีความเป็นไปได้สูง เพราะโดยเฉลี่ยบ้านในตลาดประมูลจะมีราคาต่ำกว่าบ้านใหม่ตั้งแต่ 10-50% ขึ้นอยู่กับสภาพของบ้านว่ามีความชำรุดทรุดโทรมมากน้อยขนาดไหน ประกอบกับการหาซื้อบ้านในตลาดประมูล ผู้สนใจสามารถเลือกบ้านในทำเลที่ต้องการได้ โดยเฉพาะในทำเลที่ไม่มีบ้านใหม่เสนอขาย

ในขณะเดียวกัน บ้านในตลาดประมูลบ้านมือสองก็มีข้อด้อยกว่าบ้านใหม่ ตรงที่บ้านในตลาดประมูลจะมีสภาพการใช้งานไม่เต็ม 100% ผู้ที่ประมูลได้จะต้องเสียเงินในการปรับปรุง ซ่อมแซม ในส่วนที่ชำรุดทรุดโทรม จะใช้เงินมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพบ้านที่ประมูลมาได้ รวมทั้งผู้ซื้อบ้านในตลาดประมูลอาจมีโอกาสเสี่ยงกับกรณีการฟ้องร้องขับไล่ หากเป็นการประมูลซื้อในกระบวนการขายทอดตลาด เพราะเจ้าของเดิมที่ยังไม่ยินยอมย้ายออก หรือขับไล่ผู้บุกรุกที่เข้ามาอยู่อาศัยในช่วงเวลาที่บ้านยังไม่ถูกนำออกมาประมูลขาย ทำให้ผู้ซื้อด้วยวิธีการประมูลอาจเสียเวลาในการฟ้องขับไล่ตามกระบวนการของกฎหมาย เวลาที่เสียไปอาจทำให้ผู้ซื้อไม่สามารถดำเนินการย้ายเข้าอยู่อาศัยได้ตามแผนที่วางไว้ตั้งแต่ต้น

อย่างไรก็ตาม การประมูลบ้านมือสองก็ยังคงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ซื้อบ้าน แต่ผู้ที่จะเข้าสู่ตลาดประมูลควรที่จะรู้จักวิธี และการเตรียมตัวก่อนที่จะซื้อบ้านในตลาดประมูลเพื่อที่จะได้บ้านตามที่ต้องการ และสามารถวางแผนเกี่ยวกับบ้านได้อย่างถูกต้องหลังจากการประมูลเสร็จสิ้นลงนะคะ และสำหรับใครที่ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ วันนี้กระปุกดอทคอมก็มีข้อมูลเกี่ยวกับประมูลบ้านมือสองมาฝากค่ะ ..

บ้านในตลาดประมูล สามารถแบ่งได้กว้าง ๆ 

ตามแหล่งที่มาของทรัพย์สินได้ 2 ประเภท ดังนี้


1. บ้านที่นำมาประมูลของภาครัฐจัดโดยกรมบังคับคดี โดยเป็นการขายทอดตลาดตามกระบวนการทางกฎหมาย หลังจากศาลตัดสินให้บังคับจำนองหลักประกัน เพื่อนำมาขายทอดตลาด เพื่อนำเงินมาชำระหนี้คืนให้กับเจ้าหนี้ ตลาดประมูลของกรมบังคับคดีจึงนับเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ๆ โดยเฉพาะการบังคับจำนองหลังจากวิกฤติเศรษฐกิจทำให้กรมบังคับคดีมีอสังหาริมทรัพย์ที่ยึดมา เพื่อทำการขายทอดตลาดด้วยวิธีการประมูลเป็นมูลค่ามากกว่า 750,000 ล้านบาท

ดังนั้น กรมบังคับคดีพยายามที่จะระบายทรัพย์นั้นออกมาโดยการประมูลให้ได้มากที่สุด และพยายามที่จะปรับปรุงระเบียบ วิธีการประมูลให้เกิดความคล่องตัวและสามารถประมูลทรัพย์ได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น การลดราคาเริ่มต้นประมูลลงในกรณีที่ไม่มีผู้ประมูลในการประมูลครั้งแรก โดยสามารถลดราคาลงได้ถึง 5 ครั้ง หากนำทรัพย์ออกมาประมูลขายครบ 3 ครั้งแล้วยังไม่สามารถประมูลขายทรัพย์นั้นได้ ในครั้งที่ 4 ราคาเริ่มต้นประมูลทรัพย์จะลดลงเหลือเพียง 50% ของราคาประเมิน

นอกจากการประมูลบ้านมือสองผ่านกรมบังคับคดีแล้ว ธนาคารและสถาบันการเงินต่างก็มีทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPA (Non Performing Asset) ที่ได้จากการรับโอนหลักประกันชำระหนี้มาจากลูกหนี้ หรือการประมูลทรัพย์ที่เป็นของธนาคารคืนกลับมาเป็นกรรมสิทธิ์ของธนาคารอีกครั้ง หลังจากที่เห็นว่า การขายทอดตลาดของกรมบังคับคดีได้ราคาที่ต่ำเกินไป ทรัพย์สินเหล่านี้ธนาคารจะนำออกขายด้วยวิธีการประมูลส่วนหนึ่ง ซึ่งถือเป็นอีกตลาดสำหรับการหาซื้อบ้านโดยวิธีการประมูล

2. บ้านที่นำมาประมูลของบริษัทเอกชน สินทรัพย์ที่นำออกประมูลอาจจะมาจากเจ้าของโครงการที่ต้องการขายสินทรัพย์ผ่านการประมูล หรือเป็นทรัพย์ของธนาคารที่รับตีโอนทรัพย์ชำระหนี้มาจากเจ้าของโครงการ ธนาคารอาจใช้วิธีจ้างบริษัทเอกชนให้เป็นผู้จัดการประมูล ซึ่งการซื้อบ้านในตลาดประมูลตามที่กล่าวมาข้างต้นจะมีวิธีการประมูลที่ไม่แตกต่างกัน







 การเตรียมตัวเข้าสู่ตลาดประมูลเพื่อซื้อบ้าน มีหลายข้อด้วยกัน ดังนี้


1. การตรวจสภาพทรัพย์สิน ในการประมูลอสังหาริมทรัพย์ ประการแรกคือจะต้องรู้ถึงสภาพของทรัพย์สินที่จะเข้าสู้ประมูล ซึ่งหลักสำคัญก็คือตรวจสอบตัวบ้านทั้งภายในและภายนอก เช่น บ้านจากกรมบังคับคดีซึ่งสภาพของทรัพย์ค่อนข้างโทรม จึงควรตรวจสอบให้ละเอียดเท่าที่จะทำได้

2. ทำเลที่ตั้งของทรัพย์สิน ในส่วนนี้สิ่งที่ต้องคำนึงมีอยู่ 2 ประการ คือ ดูว่าทรัพย์สินนั้น ๆ อยู่ในแนวเวนคืนหรือไม่ ซึ่งคงต้องตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอีกประการคือ เรื่องทำเลที่ตั้งเป็นบริเวณที่อยู่ในความนิยมของผู้บริโภคหรือไม่ อย่างไร

3. การตรวจสอบราคาตลาดในทรัพย์ที่สนใจประมูล จะต้องทราบราคาตลาดของทรัพย์นั้น ๆ โดยดูได้จากบ้านทำเลใกล้เคียงที่มีการประกาศขายอยู่ ซึ่งตรงนี้จำเป็นมากในการตั้งราคาสู้ประมูล เพื่อที่จะประมูลหรือกำหนดราคาที่ไม่เกินราคาตลาดได้

4. กรณีที่อยู่อาศัยมีการปิดตาย ซึ่งชี้ให้เห็นว่า เป็นบ้านว่างไม่มีคนอยู่อาศัย ในกรณีนี้ ถ้าเป็นกรณีการประมูลทรัพย์สินจากกรมบังคับคดี ควรต้องตรวจสอบให้ละเอียดถี่ถ้วน ถ้าประตูล็อคเราไม่สามารถเข้าไปดูสภาพทรัพย์โดยละเอียดได้ การบุกรุกงัดแงะเข้าไปถือว่าผิดกฏหมาย เพราะว่าเจ้าของบ้านเดิมยังมีสิทธิในทรัพย์สินอยู่ อีกกรณีคือบ้านมีผู้อยู่อาศัยอาจจะเป็นเจ้าของเดิม หรือการลักลอบหรือการเข้าอาศัยจากเจ้าของเดิม ถ้ามีการประมูลได้คงต้องการขอให้ย้ายออก ถ้าผู้อาศัยไม่ย้ายออกจะต้องดำเนินการฟ้องขับไล่ต่อไป ซึ่งอาจใช้เวลายืดเยื้อ 1.5-3 ปี

5. การรอนสิทธิ์และภาระจำยอม ผู้ที่จะประมูลต้องตรวจสอบว่าในหลังโฉนดมีการติดภาระจำยอมหรือการรอนสิทธิ์หรือไม่ ทางที่ดีควรไปตรวจสอบกับกรมที่ดินเพื่อขอดูต้นฉบับโฉนดและหมายรวมไปถึงสัญญาเช่าด้วย

6. ปัญหาเรื่องมิเตอร์น้ำ, ไฟฟ้า ปัญหาเรื่องนี้ผู้ที่ประมูลทรัพย์สินได้คงต้องตรวจสอบเช่นกัน เพราะว่าถ้ามีการขออนุญาตใหม่ จะเสียค่าใช้จ่ายสูง เนื่องจากทั้งการประปาและการไฟฟ้าจะให้ผู้ขอติดตั้งชำระเงินค่างวดค้างจ่ายทั้งหมดตั้งแต่อดีต สำหรับกรณีนิติบุคคลอาคารชุด การโอนต้องชำระเงินค้างจ่ายทั้งหมดเพื่อแสดงการปลอดหนี้จึงจะจดทะเบียนกับนิติบุคคลได้ ทั้งนี้ยอดค้างจ่ายจะไม่รวมถึงเบี้ยปรับของค่าใช้จ่ายค้างชำระ ดังนั้น ผู้ประมูลต้องตรวจสอบให้รอบคอบถึงค่างวดค้างจ่ายและค่าเบี้ยปรับด้วย

7. การขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ปัจจุบันทางกรมบังคับคดีมีข้อตกลงกับทางสถาบันการเงินทั้งหมด 12 แห่ง ที่ผู้สนใจซื้อประมูลบ้านมือสอง สามารถติดต่อเพื่อขอสินเชื่อได้ คือ

ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารธนชาติ
บริษัทเงินทุนทิสโก้
ธนาคารไทยพาณิชย์
ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ธนาคารกรุงเทพ
ธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารทหารไทย
ธนาคารนครหลวงไทย
บริษัทเงินทุนเกียรตินาคิน
บริษัทอเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์

โดยทรัพย์สินที่ประมูลได้ครบกำหนด 15 วัน หากสินเชื่อยังไม่อนุมัติ ทางธนาคารที่มีข้อตกลงจะออกหนังสือให้ผู้ประมูลซื้อยื่นต่อทางกรมบังคับคดี เพื่อขอผ่อนผันขยายระยะเวลาชำระเงินได้

8. การทำรายได้ ควรซื้อทรัพย์สินที่สามารถสร้างรายได้จากค่าเช่า ซึ่งทรัพย์สินที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือ คอนโดมิเนียมกลางเมือง เนื่องจากมีความต้องการในการเช่าสูง ส่วนบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และที่ดินเปล่า คงต้องดูในเรื่องศักยภาพทางทำเล ความเจริญ และทางด้านผังเมือง รวมไปถึงกฎการก่อสร้างอาคารต่าง ๆ ที่จะมีผลในการพัฒนาต่อไป

การเตรียมหลักฐานและเงินที่จะต้องนำมาในประมูล มีดังนี้

1. การเตรียมเอกสารในการเข้าประมูลซื้อ

1.1 บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบัตรพนักงานรัฐวิสาหกิจ พร้อมสำเนารับรองถูกต้อง 1 ฉบับ

1.2 กรณีนิติบุคคลเป็นผู้ซื้อต้องส่งหนังสือรับรองนิติบุคคลที่นายทะเบียนรับรองไม่เกิน 1 เดือน

1.3 กรณีประสงค์ให้บุคคลอื่นเข้าประมูลแทน ต้องมีใบมอบอำนาจ ปิดอากรแสตมป์ 30 บาท และบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจ พร้อมสำเนา 1 ชุด บัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจพร้อมสำเนา 1 ชุด

2. การเตรียมเงินในการเข้าประมูลซื้อ

ผู้ประมูลซื้อต้องเตรียมเงินสดจำนวน 50,000 บาทหรือแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายกรมบังคับคดี กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นหลักประกันในการเข้าประมูลซื้อทรัพย์ในวันดังกล่าวและเมื่อประมูลซื้อคดีใดได้แล้ว สามารถใช้เงินประกันดังกล่าว เป็นค่ามัดจำซื้อทรัพย์ส่วนหนึ่งในคดีนั้น หากผู้ซื้อยังประสงค์จะประมูลซื้อในคดีอื่นต่อไป จะต้องวางเงินสดใหม่อีก 50,000 บาท หรือวางเป็นแคชเชียร์เช็คตามจำนวนเงินดังกล่าว

วิธีปฏิบัติในการเข้าประมูลซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีดังนี้

1. ผู้เข้าสู้ราคาต้องกรอกรายละเอียดของผู้ซื้อในบัตรลงทะเบียน พร้อมวางเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คเป็นประกันการเข้าสู้ราคาต่อเจ้าหน้าที่การเงิน เว้นแต่ผู้เข้าสู้ราคานั้นเป็นผู้มีสิทธิขอหักส่วนได้ใช้แทน หรือเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา หรือคู่สมรสที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้กันส่วนแล้วหรือผู้ขอเฉลี่ยทรัพย์ ซึ่งศาลมีคำสั่งอนุญาตให้เข้าเฉลี่ยทรัพย์แล้ว ไม่ต้องวางเงินหลักประกัน

2. ผู้เข้าสู้ราคา เมื่อวางหลักประกันแล้วจะได้รับป้ายประมูลราคาจากเจ้าพนักงาน เพื่อใช้สำหรับเสนอราคาจากนั้นเข้าไปนั่งในสถานที่ที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้

3. การกำหนดราคาเริ่มต้นของเจ้าพนักงานกำหนดดังนี้

ครั้งแรกในราคาร้อยละ 80 ของราคาประเมิน

ครั้งที่ 2 ในราคาร้อยละ 50 ของราคาประเมินแต่ต้องไม่น้อยกว่าราคาที่มีผู้เสนอสูงสุดในครั้งก่อน


กรณีที่ประมูลทรัพย์ได้แล้ว

ต้องนำเงินส่วนที่เหลือมาชำระต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีให้เสร็จภายใน 15 วันนับแต่วันซื้อเป็นต้นไป ในกรณีที่ผู้ประมูลไม่สามารถชำระเงินส่วนที่ค้างชำระได้ภายในกำหนดเวลา 15 วัน และได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงิน ซึ่งต้องระบุเหตุผลและความจำเป็น เจ้าพนักงานบังคับคดีจะขยายให้อีกตามที่เห็นสมควร ทั้งนี้ ไม่เกิน 3 เดือนและไม่ว่ากรณีใด ๆ จะไม่มีการขยายเวลาวางเงินให้อีก ถ้าไม่นำเงินที่เหลือมาชำระให้เสร็จภายในกำหนดดังกล่าว เจ้าพนักงานบังคับคดีจะริบมัดจำที่วางไว้และนำทรัพย์ออกขายทอดตลาดใหม่ หากขายทอดตลาดต่อไปได้ราคาสุทธิต่ำกว่าครั้งก่อนเท่าใด ผู้ประมูลต้องชดใช้ให้เต็มจำนวนที่ประมูลไว้ในครั้งก่อนและต้องเสียค่าใช้จ่ายต่าง ๆ สำหรับการขายทอดตลาดครั้งหลังนี้ด้วย

การขอคืนเงินประกัน กรณีประมูลซื้อไม่ได้ และไม่ประสงค์เข้าประมูลซื้อ

ผู้ประมูลซื้อนำหลักฐานใบรับเงินประกันและบัตรประมูลไปติดต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อรับเงินคืนในวันที่ประมูล

 ข้อสังเกต

1. กำหนดราคาเริ่มต้นของการประมูลบ้านมือสองที่ 50% และ 80% กำหนดจากประเภททรัพย์ที่ยึดดูจากราคาที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง ค่าเสื่อมราคา สภาพทรัพย์สิน ราคาใกล้เคียง ราคาตลาด คนซื้อต้องมีค่าฟ้องศาล ค่าโอน และภาระอื่น ๆ ทั้งนี้ ทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงกว่า 50 ล้านบาท ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาราคาทรัพย์ ทั้งนี้ ราคาประมูลที่ตกลงแล้วสามารถเปลี่ยนแปลงได้ หากมีการคัดค้านโดยเจ้าของทรัพย์ หากมีเจ้าของทรัพย์หลายรายก็จะมีโอกาสคัดค้านราคาประมูลได้หลายครั้ง ดังนั้น เพื่อให้ราคาประมูลยุติโดยเร็ว โจทก์และจำเลยควรมาพร้อมกันเพื่อตกลงราคาซื้อขาย

2. การวางเงินสด 50,000 บาท และการทำสัญญาซื้อขายขอสินเชื่อธนาคาร 15 วัน มีบางราย ซื้อแล้วไม่วางเงิน เจ้าหนี้ลูกหนี้ต้องฟ้องร้อง

3. การรอนสิทธิ สิทธิตามกฎหมายต้องบันทึกในสารบรรณจดทะเบียนหลังโฉนด เป็นสิ่งสำคัญและถ้าพบกองบังคับคดีจะคืนเงินให้ผู้ซื้อ เช่น เป็นที่สาธารณะ (สาระสำคัญของผู้ซื้อ)

4. การพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงินแต่ละแห่งใช้เวลาประมาณ 45-90 วัน หากผู้ขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่มีข้อตกลงเรื่องการให้สินเชื่อกับกรมบังคับคดีแล้ว และไม่สามารถนำเงินส่วนที่เหลือมาชำระได้ทันภายใน 15 วัน ผู้ซื้อสามารถยื่นคำร้องขอขยายเวลาการวางเงินต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี โดยให้สถาบันการเงินดังกล่าวเป็นผู้รับรอง ขอผ่อนปรน 3 ครั้ง จนได้รับอนุมัติแล้วจึงนำเงินมาโอนให้กับกรมที่ดินเพื่อจดทะเบียนจำนองได้ภายใน 1 วัน และผ่อนชำระกับสถาบันการเงินต่อไป อย่างไรก็ตาม ปกติการนับคิดดอกเบี้ยจะคิดถึงวันที่ขาย

ทั้งนี้ หากประมูลได้แล้ว ผู้ประมูลได้ต้องการขอสินเชื่อจากธนาคารใดก็ต้องติดต่อสอบถามหลักเกณฑ์ของธนาคารนั้น ๆ โดยตรง

ยกตัวอย่าง บริการชำระค่าวางเงินประกัน 

การประมูลทรัพย์กรมบังคับคดีด้วยบัตร ATM/VISA Debit กรุงไทย

ขั้นตอนการชำระเงิน

1. ผู้เข้าร่วมประมูลกรอกใบทะเบียนผู้เข้าสู้ราคาหน้างาน

2. เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีตรวจสอบความถูกต้องและแจ้งจำนวนเงินวางประกันเข้าสู้ราคา

3. ผู้เข้าร่วมประมูลยื่นชำระค่าวางเงินประกันฯ ด้วยบัตร ATM กรุงไทย หรือ Visa Debit กรุงไทย โดยกดรหัส PIN ของบัตร ATM ผ่านเครื่องรูด Mobile EDC หลังจากเจ้าหน้าที่กรมฯ ทำการป้อนข้อมูล ประกอบด้วย จำนวนเงิน,สี,เลขที่ประมูล,เบอร์โทรศัพท์เรียบร้อยแล้ว


4. ระบบจะตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและอนุมัติการทำรายการพร้อมตัดเงินจากบัญชีในบัตรของผู้ประมูล (รวมธรรมเนียมการทำรายการ 10 บาท/รายการ ไม่จำกัดวงเงิน)


5. ระบบจะพิมพ์ใบบันทึกรายการ (Slip) ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน

ส่วนที่ 1 กรมบังคับคดีจะให้ผู้ร่วมประมูลลงลายมือชื่อในสลิป และกรมฯ จะเก็บไว้เป็นหลักฐานคู่กับใบลงทะเบียน
ส่วนที่ 2 ผู้ร่วมประมูล เก็บเป็นหลักฐานเพื่อทำสัญญาต่อ หรือขอรับเงินคืนหลังทราบผลการประมูล

หลังการประมูล

- ชนะการประมูล ผู้ร่วมประมูลนำใบบันทึกรายการมายื่นให้เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี ออกใบเสร็จพร้อมทำนิติกรรมสัญญาร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย

- แพ้การประมูล เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี ทำรายการคืนเงินกลับไปยังบัญชีผู้ร่วมประมูลทันที (ธนาคารจะไม่คืนค่าธรรมเนียมทำรายการ)

สุดท้ายนี้ อยากฝากไปถึงผู้ที่กำลังจะทำการประมูลซื้อบ้าน หรืออสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ ว่าต้องตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจน แน่ใจจริง ๆ จึงจะทำธุรกรรมใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องบ้าน เนื่องบ้านเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง จึงควรศึกษาอย่างรอบคอบ

เครดิต:kapook.com ,กรมบังคับคดี

PR ขายทาวน์เฮ้าส์ ม.พฤกษาวิลล์7 รังสิต-นครนายก คลอง2 แต่งสวย

(ขายแล้ว) ขายทาวน์เฮ้าส์  พฤกษาวิลล์7 

รังสิต-นครนายก (คลอง 2)

ขายทาวน์เฮ้าส์ สภาพใหม่ สวยมาก


ตกแต่งห้องนอนใหม่ 

พื้นปูกระเบื้อง ลายสวย

ตกแต่งบ้านน่ารัก น่าพักอาศัย

ตัวบ้านกว้างขวาง เป็นสัดส่วน

โถสุขภัณฑ์ วัสดุอย่างดี

ห้องน้ำสะอาด

2 ห้องนอนใหญ่

ห้องน้ำมีทั้ง 2 ชั้น 

ห้องครัวทำตกแต่งทำใหม่ สวย

ห้องครัวตกแต่งทำใหม่

ตกแต่งสวย

น่าอยู่อาศัย

ปูกระเบื้องลานจอดรถ

โครงการร่มรื่น ถนนกว้างสัญจรสะดวก


ข้อมูลทรัพย์สิน : 

ประเภททรัพย์สิน : ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น  
โครงการ/หมู่บ้าน : พฤกษาวิลล์ 7  ซ.33 
ถนนเลียบคลองรังสิต - นครนายก (คลอง2)
ตำบลประชาธิปัตย์  อำเภอธัญบุรี  จังหวัดปทุมธานี 



ขนาด 100  ตารางเมตร
เนื้อที่  0 ไร่  0 งาน  18 ตารางวา



รายละเอียดทรัพย์สิน :
  • 2 ห้องนอน 
  • 2 ห้องน้ำ 
  • 1 ห้องครัว 
  • เครื่องปรับอากาศ  2 ตัว  และจานดาวเทียม 
  • สามารถจอดรถได้ 2 คัน
  • สภาพบ้านใหม่มาก ต่อเติมระเบียงด้านหน้าบ้านให้กว้างกว่าเดิม ปูกระเบื้องลานจอดรถและทำนอนใหม่
  • ต่อเติมห้องครัวปูกระเบื้องฝาฝนัง สะอาดมาก
  • บรรยากาศในโครงการร่มรื่น  ถนนในโครงการกว้าง




โซนทำเล :
  • โครงการตั้งอยู่ถ.เลียบคลองรังสิต-นครนายก (คลอง2)
  • ใกล้รพ.เอกปทุม,รพ.ปทุมเวช
  • ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนกาญจนาภิเษก,ทางด่วนโทลเวย์ 








ขายคอนโด ริธึ่ม Rhythm รัชดา-ห้วยขวาง คอนโดติด MRT ห้วยขวาง

ขายคอนโด ริธึ่ม Rhythm 50.81 ตรม.

รัชดา-ห้วยขวาง ติด MRT ห้วยขวาง
























สถานที่ตั้งทรัพย์สิน :
ประเภททรัพย์สิน
คอนโดมิเนี่ยม สูง 34 ชั้น
โครงการหมู่บ้าน
ริธึ่มรัชดา - ห้วยขวาง
ซอย / ถนน
รัชดาภิเษก
แขวง/เขต
ห้วยขวาง  ห้วยขวาง
จังหวัด
กรุงเทพหานคร

ขนาดและพื้นที่ :
ขนาด
     50.81  ตารางเมตร
เนื้อที่
     0  ไร่    0  งาน   0  ตารางวา

รายละเอียด / จุดสนใจ

ขายห้องชั้น  22 คอนโดสภาพใหม่สวยพร้อมเฟอร์ มี 1ห้องนอน 1ห้องน้ำพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น  เครื่องปรับอากาศ 2 ตัว  ครัวบิวท์อินพร้อมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าครบชุด 

ท่านสามารถหิ้วกระเป๋าเข้ามาพักอาศัยได้เลย ในโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ สระว่ายน้ำ,ฟิตเนต,ที่จอดรถ  คอนโดหรูในย่านรัชดา ด้านหน้าติดสถานีรถไฟฟ้า  MRT  ห้วยขวาง นั่งรถไฟฟ้าไปเซ็นทรัลพระราม9  เพียง 10 นาที  การเดินทางสะดวกใช้ได้หลายเส้นทางทั้ง ถ.ประชาอุทิศ, ถ.สุทิสาวินิจฉัย,ถ.เทียนร่วมมิตร

เนื้อที่ : 50.81 ตรม.


สถานที่ใกล้เคียง :  ตลาดห้วยขวาง,ฟอร์จูนทาวน์รัชดา,เอสพานาด,โรบินสัน,
Big C,เซ็นทรัลพระราม9 แหล่งธุรกิจและสถานบันเทิงอีกมากมาย


โซนทำเล : รัชดาภิเษก,พระราม9,ห้วยขวาง

 ราคาขาย  5,500,000.-

สนใจสอบถามเพิ่มเติม
   ภาวิช (เมย์) ตะรุวรรณ  
 บริการรับ ฝากขาย-ฝากเช่า คอนโด บ้าน ที่ดิน 
โทร. 0958646669
www.facebook.com/era4u






รับมือ AEC ผุดมอเตอร์เวย์สายใหม่ เชียงใหม่-ลำปาง 4.9 หมื่นล้าน



เพื่อไทยทุ่มกว่า 5 หมื่นล้านสร้างโครงข่ายคมนาคมใหม่ รองรับการเติบโตเมืองเชียงใหม่ ทอท.เล็งสร้างสนามบินนานาชาติแห่งที่ 2 ขนาด 3,000 ไร่ ย่าน "สันกำแพง-บ้านธิ" ผังเมืองรับลูกปั้นเป็นเมืองใหม่-ฮับการบิน กรมทางหลวงลุยไม่ยั้งขยาย 8 เลนถนนสาย 11 "แยกดอยติ-เมืองเชียงใหม่" กับวงแหวนรอบที่ 3 ขุดอุโมงค์ทางลอดแก้จุดตัดนับ 10 แห่ง เร่งศึกษาวงแหวนรอบที่ 4 ผุดมอเตอร์เวย์

สายเชียงใหม่-ลำปาง 53 กม. วงเงิน 4.9 หมื่นล้าน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยุทธศาสตร์จังหวัดเชียงใหม่มีการพัฒนาและขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีมานี้ทั้งเศรษฐกิจ การค้า ที่อยู่อาศัย การท่องเที่ยว เพื่อรองรับการขยายตัวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งการลงทุนโครงการ 2 ล้านล้านบาท และการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 มีผลให้กรมโยธาธิการและผังเมืองทำการทบทวนผังเมืองรวมจังหวัดใหม่ ให้สอดรับกับการลงทุนทั้งโครงการ 2 ล้านล้านบาท และโครงการที่หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจเตรียมจะลงทุนเพิ่ม เช่น สนามบินนานาชาติแห่งที่ 2 การขยายถนนวงแหวนรอบนอกวงที่ 3 เพื่อให้โครงข่ายครบสมบูรณ์ นอกจากนี้มีโครงการมอเตอร์เวย์สายใหม่ เพื่อรับมือเมืองที่จะเติบโตขึ้นจากคลื่นลงทุนและคนที่จะย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่อาศัยจำนวนมาก รวมเบ็ดเสร็จใช้เม็ดเงินลงทุนเบื้องต้นร่วม 55,200 ล้านบาท






ปักหมุดเมืองใหม่ สันกำแพง


นายสุรพล ศราทธทัต นักวิเคราะห์ผังเมืองชำนาญการพิเศษโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า อีกเหตุผลที่จะต้องทบทวนผังเมืองรวมจังหวัดฉบับปัจจุบันใหม่ เพื่อให้การใช้ประโยชน์ที่ดินสอดคล้องกับโครงการก่อสร้างสนามบินนานาชาติแห่งที่ 2 ในเชียงใหม่ โดยมีแผนดำเนินการก่อสร้างในอนาคต บริเวณพื้นที่รอยต่ออำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ กับอำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูนและบริเวณนี้จะเป็นเมืองใหม่ในอนาคต

"ขณะเดียวกันจะต้องพิจารณาเพิ่มโครงข่ายการคมนาคมเข้าไปในผังเมืองรวมจังหวัดที่จะปรับใหม่นี้ด้วย เช่น ขยายถนนวงแหวนรอบนอกวงที่ 3 ให้สมบูรณ์จากเดิมมีแค่ 2 ช่องจราจร" นายสุรพลกล่าว

ศึกษาสนามบินเชียงใหม่ 2


นายพงษ์ศักดิฐ์ เสมสันต์ กรรมการและรักษาการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ทอท.กำลังศึกษาความเหมาะสมและรายละเอียดโครงการก่อสร้างสนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 ซึ่งทางจังหวัดเสนอให้มีการก่อสร้างเพิ่ม สอดคล้องกับแผนงาน ทอท.ที่บรรจุโครงการนี้ไว้ในแผนพัฒนาและลงทุนในอนาคตอยู่แล้ว แต่คงจะไม่ใช่เร็ววันนี้ เหตุผลการลงทุนเนื่องจากต่อไปเชียงใหม่จะเป็นศูนย์กลางการบินและเออีซี แนวโน้มมีคนเดินทางเพิ่มขึ้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปสร้างหรือไม่สร้างต้นปี 2557 นี้

"สนามบินเดิมยังรองรับผู้โดยสารได้อีกประมาณ 3 ปีนับจากปี 2557-2559 ยังไม่หนาแน่นเหมือนภูเก็ต สุวรรณภูมิ เพราะก่อนหน้านี้ได้ขยายพื้นที่รันเวย์ อาคาร ที่จอดแท็กซี่ และปรับปรุงภายในอาคารใหม่ โครงการแห่งที่ 2 จะขยายแค่ไหนดูจากของเดิมเป็นฐาน เช่น จำนวนผู้โดยสาร ขนาดพื้นที่ เป็นต้น โดยทางจังหวัดจะเป็นคนเลือกพื้นที่ให้"

เล็ง อ.สันกำแพง-บ้านธิ


น.ท.หลักชัย เฉลยปราชญ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างรอผลการศึกษาความเป็นไปได้จากส่วนกลางเรื่องการสร้างสนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 เช่น ขนาดพื้นที่ เงินลงทุน การจัดวงจรการบิน เนื่องจากต้องดูหลายองค์ประกอบมาพิจารณา คาดว่าการดำเนินการคงไม่ใช่ในเร็ว ๆ นี้

เนื่องจากปัจจุบันสนามบินเชียงใหม่ปริมาณผู้โดยสารยังไม่เต็มตามที่ประเมินไว้ที่ 8 ล้านคนต่อปี แม้ว่าผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นทุกปี เฉลี่ยปีละ 10% โดยปัจจุบันยังอยู่ที่ 5.1 ล้านคนต่อปี เพิ่มขึ้นจากปี 2555 อยู่ที่ 4.1 ล้านคนต่อปี ในปี 2557 คาดว่าอยู่ที่ 6 ล้านคนต่อปี ยังสามารถรองรับได้อีก 5 ปี

เวนคืนที่ดิน 3 พันไร่


"พื้นที่ก่อสร้างแห่งใหม่ที่เหมาะสมอยู่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด ห่างจากสนามบินเดิมประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นพื้นที่เปิดใหม่อยู่บริเวณอำเภอสันกำแพงกับอำเภอบ้านธิ ด้านตะวันตกไม่สามารถสร้างได้เพราะติดเขา ส่วนด้านเหนือและใต้ติดพื้นที่ทหาร" ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่กล่าว


สำหรับขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมคาดว่าจะอยู่ประมาณ 3,000 ไร่ ตามที่ทางจังหวัดได้นำเสนอ และจะต้องมีการเวนคืนที่ดินหากมีข้อสรุปชัดเจนว่าจะใช้บริเวณนี้ ทั้งนี้นับว่าเป็นพื้นที่ใหญ่กว่าสนามบินเดิม 2 เท่าตัว เนื่องจากสนามบินปัจจุบันมีพื้นที่ประมาณ 1,000 ไร่เท่านั้น อย่างไรก็ตามในการบริหารจัดการเพื่อรองรับการท่องเที่ยวและสายการบินที่เพิ่มขึ้น มีแนวคิดจะเปิดการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง จากปัจจุบันเปิดบริการเวลา 06.00-24.00 น. เพื่อเพิ่มเที่ยวบินมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีหลายสายการบินขอเปิดชาร์เตอร์ไฟลต์หรือบินตรงเพิ่ม

ทล.ลุยขยายถนน-ขุดอุโมงค์


นายสอาด ประจันพล ผู้อำนวยการส่วนวางแผนสำนักทางหลวงที่ 1 (เชียงใหม่) กล่าวว่า ในแผนงานก่อสร้างมีหลายโครงการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรองรับปริมาณจราจรที่เพิ่มขึ้น เป็นโครงการที่กำลังดำเนินการใช้งบประมาณปี 2556 และงบประมาณปี 2557 และโครงการในอนาคตที่อยู่ระหว่างขอจัดสรรงบประมาณโครงการที่จะดำเนินการ ประกอบด้วย 1.ขยายถนนวงแหวนรอบที่ 3 จาก 2 ช่องเป็น 4 ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 28 กิโลเมตร วงเงิน 1,000 ล้านบาท

ยังไม่รวมก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดจุดตัดอีก 7 แห่ง เช่น แยกหลุยส์ แยกสันกำแพง จะมีการพัฒนาในระยะต่อไปหลังขยายถนนเสร็จแล้ว หากรวมด้วยคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 2,500-3,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีการออกแบบเสร็จแล้วรอการจัดสรรงบประมาณ

2.ขยายทางหลวงหมายเลข 11 บริเวณแยกดอยติ จ.ลำพูน ไปถึงจังหวัดเชียงใหม่ จาก 4 ช่องเป็น 6-8 ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร วงเงิน 1,200-1,400 ล้านบาท อยู่ระหว่างของบประมาณส่วนกลางมาดำเนินการ

3.ก่อสร้างทางลอดแยกกองพันธุ์สัตว์ป่า วงเงิน 600 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ใช้งบประมาณปี 2556 ก่อสร้าง 2 ปี



4.โครงการในงบประมาณปี 2557 มีอุโมงค์ทางลอดบริเวณสามแยกแม่โจ้ ขยายสะพานข้ามแม่น้ำปิง จาก 4 ช่องเป็น 6 ช่องจราจร วงเงินรวม 1,200 ล้านบาท ใช้เวลาดำเนินการ 2 ปี ผุดมอเตอร์เวย์ไปลำปาง

5.โครงการถนนวงแหวนรอบที่ 4 เป็นความต้องการของจังหวัดที่จะให้ดำเนินการก่อสร้าง แต่ยังไม่ได้มีความคืบหน้า เนื่องจากกรมยังไม่ได้งบประมาณศึกษาโครงการ คาดว่าจะตั้งงบประมาณในปี 2557 นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในแผนแม่บทมอเตอร์เวย์ที่กรมทางหลวงได้จ้างบริษัทที่ปรึกษามาดำเนินการนั้น ในแผนเร่งด่วนช่วง 10 ปีแรก (2557-2567) มีโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ เส้นทางจากอำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง-เชียงใหม่ บรรจุอยู่ในแผนงานด้วยระยะทางประมาณ 53 กิโลเมตร ขนาด 4 ช่องจราจร ค่าก่อสร้างเบื้องต้นประมาณ 49,000 ล้านบาท เฉลี่ยกิโลเมตรละ 1,000 ล้านบาทเนื่องจากออกแบบเจาะอุโมงค์ด้วยทำให้ค่าก่อสร้างสูงขึ้น

โดยแนวเส้นทางเปิดพื้นที่ใหม่จะเริ่มจากบริเวณอำเภอแจ้ห่ม แล้วไปบรรจบพื้นที่ทางด้านตะวันออกของเมืองเชียงใหม่ รัศมีประมาณ 30 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมกับวงแหวนรอบนอกรอบที่ 3 ส่วนช่วงจากเชียงใหม่ไปเชียงรายคาดว่าจะเป็นระยะต่อไป


ที่มา:
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1386044792

PR ขายบ้านเดี่ยว ม.แมกไม้ ถ.รามอินทรา103/3 ใกล้แฟชั่นไอส์แลนด์

ขายบ้านเดี่ยว 103 ตรว. ม.แมกไม้ ถ.รามอินทรา

























ข้อมูลทรัพย์สิน : 
ประเภททรัพย์สิน :  บ้านเดี่ยว 2  ชั้น
ชื่อโครงการหมู่บ้าน :  แมกไม้ ซ.3/4 
ซอย รามอินทรา 103/3  ถนนรามอินทรา               
แขวงคันนายาว    เขตบึงกุ่ม   จังหวัดกรุงเทพมหานคร

ขนาด  330  ตารางเมตร 
เนื้อที่ 0 ไร่ 0 งาน 103 ตารางวา

รายละเอีดยดทรัพย์สิน :
  • 8 ห้องนอน
  • 4 ห้องน้ำ 
  • 2 ห้องรับแขก (ชั้น 1 และ 2 )
  • 1 ห้องครัวใหญ่
  • เครื่องปรับอากาศ 7 - 8 เครื่อง 
  • ด้านนอกตัวบ้านมีห้องแม่หรือจะใช้เก็บของ 3 ห้อง มีลานซักล้างด้านหลังบ้าน
  • บริเวณชั้น 2 มีระเบียงรอบตัวบ้าน พื้นที่ใช้สอยบ้านกว้างขวาง เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่            การก่อสร้างและออกแบบบ้านเอง เลือกใช้วัสดุอย่างดี สภาพบ้านใหม่สามารถเข้าอยู่ได้เลย 



โซนทำเล : 

  • โครงการตั้งอยู่ติดถนนรามอินทรา  ซ.รามอินทรา103/3 
  • ใกล้ห้างแฟชั่นไอส์แลนด์,รพ.นพรัตน์,รถไฟฟ้าสายสีชมพู


ราคาขาย    15,000,000.- บาท


ต้องการฝากขาย,บ้าน,ที่ดิน,คอนโด,ทาวน์เฮ้าส์โทร. 095 864 6669  ภาวิช E-Mail : pawit15@hotmail.comhttp://prrealestates.blogspot.com