บริการรับฝากขาย-เช่าที่ดิน บ้าน คอนโด ทำโฆษณาให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โทร 094-6561965

อสังหาวัชรพล-สายไหมแข่งดุเดือด Vs ที่ดินฝั่งธนขยับ 20%

อสังหาวัชรพล-สายไหมแข่งดุเดือด !

                
                           นายวิสิฐ กิติอุดม ประธานกรรมการ บริษัท รุ่งกิจ เรียลเอสเตท หรืออาร์เค เปิดเผยว่า จากการสำรวจทำเลในย่านวัชรพล-สายไหม ขณะนี้มีผู้ประกอบการจัดสรรทั้งรายใหม่และรายเก่า และทั้งที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์และอยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ แห่เปิดโครงการจัดสรรแล้วไม่ต่ำกว่า 62 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นโครงการทาวน์เฮาส์ระดับราคา 1 ล้านบาทปลายถึง 2 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวราคา 3-4 ล้านบาท
ทั้งนี้ เหตุผลที่ผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับการพัฒนาในย่านนี้ เนื่องจากเป็นทำเลที่เชื่อมกับเส้นทางหลายเส้นทางไม่ว่าจะเป็นเชื่อมต่อ บริเวณพหลโยธิน แจ้งวัฒนะ ดอนเมือง วัชรพล เพิ่มสิน ออเงิน หทัยราษฎร์ และยังมีการขยายทางด่วนเพื่อเชื่อมเส้นทาง ซึ่งส่งผลให้ราคาที่ดินในย่านนี้ขยับขึ้นจากปีที่แล้วไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อนอยู่ที่ไร่ละ 4.5 ล้านบาท ขยับเพิ่มเป็น 6.5-7 ล้านบาทต่อไร่ในปีนี้
“ปีนี้ราคาที่ดินพุ่งขึ้นค่อนข้างมาก และส่วนใหญ่เป็นการปรับขึ้นเอง อาจจะมากกว่าราคาที่ขายกันด้วยซ้ำ หากเจ้าของโครงการมีความต้องการมาก แม้ว่าที่ผ่านมาในทำเลวัชรพล-สายไหมจะเคยโดนน้ำท่วม แต่ก็ไม่ได้ทำให้ราคาที่ดินราคาต่ำลง”นายวิสิฐ กล่าว
นอกจากนี้ การขยายตัวของธุรกิจโลจิสติกส์และธุรกิจการบินยังส่งผลให้พื้นที่ใน เขตกรุงเทพฯ โซนตะวันออกได้รับความนิยมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจส่งออกและนำเข้าสินค้า อีกทั้งการเตรียมเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ยิ่งส่งผลต่อความต้องการอาคารประเภทออฟฟิศสำเร็จรูป
ขณะเดียวกันยังส่งผลดีต่อบริษัทในฐานะผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ประเภทโฮมออฟฟิศและทาวน์โฮม รวมไปถึงกลุ่มที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยว ที่รองรับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ มากขึ้น

                 สำหรับแผนงานของบริษัทล่าสุดได้เปิดขายโครงการอาร์เค พาร์ค วัชรพล-สายไหม ทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์นอยู่บนเนื้อที่ 18 ไร่ มีแบบบ้านให้เลือกทั้งแบบ 2 ชั้น ขนาด 155-171 ตร.ม. และโฮมออฟฟิศ 3 และ 4 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 214 ตร.ม. ระดับราคา 1.99-3.59 ล้านบาท จำนวน 178 ยูนิต มูลค่าโครงการ 450 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 60% คาดปิดการขายได้ในปี 2556
ปัจจุบันบริษัทถือเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ ตะวันออก โดย 20 ปีที่ผ่านมา พัฒนาไปแล้วกว่า 30 โครงการ รวม 5,000 ยูนิต และมีโครงการที่อยู่ระหว่างขาย 5 โครงการ สำหรับปีนี้คาดว่าจะมียอดขาย 1,200 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ 1,000 ล้านบาท

ที่มา: www.posttoday.com



นายณัท มานะสมจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเตท กูรู ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ย่านฝั่งธนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาที่ดินย่านฝั่งธนบุรีขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากงานก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายคืบหน้าไปมาก โดยปัจจุบันราคาที่ดินติดริมถนนบริเวณเพชรเกษมตอนต้น-บางแค แตะ 1.5-2.3 แสนบาทต่อตารางวาแล้ว ปรับขึ้นจากปีที่แล้วที่มีราคา 9 หมื่น-1.2 แสนบาทต่อตารางวา

ขณะที่ราคาที่ดินบริเวณบางแค-แยกเพชรเกษม พุทธมณฑลสาย 2 ขยับขึ้นไปถึง 1.2-1.3 แสนบาทต่อตารางวา จากก่อนหน้านี้อยู่ที่ประมาณ 6-8 หมื่นบาทต่อตารางวา ซึ่งคาดว่าปีหน้าราคาที่ดินย่านเพชรเกษม-บางแค จะขยับขึ้นไปอีกไม่ต่ำกว่า 20% รวมถึงบริเวณพุทธมณฑลสาย 2 ตอนต้น ที่เริ่มมีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้าไปพัฒนาคอนโดมิเนียม จะทำให้ราคาที่ดินบริเวณดังกล่าวขยับขึ้นไปด้วย

ราคาที่ดินย่านพุทธมณฑลสาย 2 ตอนต้นปีที่แล้ว อยู่ที่ 3 หมื่นบาทต่อตารางวา แต่ล่าสุดที่มีการซื้อขายจริงขยับขึ้นไปกว่า 5 หมื่นบาทต่อตารางวาแล้ว ซึ่งจากปัจจัยเรื่องราคาที่ดินและการเข้ามาเปิดโครงการคอนโดมิเนียมย่านเพชรเกษม บางแค พุทธมณฑลสาย 2 ของบิ๊กอสังหาริมทรัพย์ จะส่งผลให้บ้านแนวราบย่านนี้ราคาสูงขึ้นมาก โดยจะหาทาวน์เฮาส์ราคาประมาณ 2 ล้านบาทในบริเวณนี้ไม่ได้แล้ว

ด้านแนวการลงทุนของผู้ประกอบการรายเล็กอย่างกลุ่มเอสเตท กูรู นายณัท กล่าวว่า ต้องเน้นทำทาวน์เฮาส์ระดับราคาประมาณ 1-2 ล้านบาท ส่วนบ้านเดี่ยวย่านฝั่งธนฯ ด้วยต้นทุนราคาที่ดินที่สูงมาก หากจะพัฒนาบ้านเดี่ยวต้องขายในราคาไม่ต่ำกว่า 6 ล้านบาท ซึ่งรายเล็กไม่สามารถทำบ้านแพงแข่งกับรายใหญ่ได้ เพราะรายใหญ่มีความแข็งแกร่งในเรื่องแบรนด์มากกว่า

สำหรับโครงการใหม่ในปีหน้า บริษัทจะเปิดตัวทาวน์โฮมใหม่อย่างน้อย 1-2 โครงการ เน้นทำเลพระราม 2 เพราะเป็นทำเลที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคย่านฝั่งธนบุรีมาก ด้วยปัจจัยเรื่องน้ำไม่ท่วม ส่วนปีนี้เพิ่งเปิดตัวทาวน์โฮมภายใต้แบรนด์ “วิสดอม เพชรเกษม 53”